วันเสาร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ครั้งที่ 5

บันทึกอนุทิน
วิชาการจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อ.ตฤณ แจ่มถิน
วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558
ครั้งที่ 5 เวลาเรียน 08.30-12.20 น.

ความรู้ที่ได้รับ
กิจกรรมที่ 1    กิจกรรมมือน้อยสร้างสรรค์
วัสดุอุปกรณ์   อาจารย์แจกวัสดุอุปกรณ์ในการทำกิจกรรม ได้แก่ กระดาษ A 4  และถุงมือคนละ 1 ข้าง

คำสั่ง   ให้นักศึกษาใส่ถุงมือข้างที่ไม่ถนัด แล้ววาดภาพมือตัวเองที่อยู่ในถุงมือ (วาดอย่างละเอียด วาดให้เหมือนจริงมากที่สุด แม้กระทั่ง รอยย่น  เส้นเลือด รูขุมขน  เล็บ  รอยตำหนิ) 




 สรุป......
            การเปรียบเทียบมือที่วาดเป็นเด็ก 1 คน  เราเห็นเด็กทั้งวันทั้งเทอม ขนาดเราเห็นมือตัวเองมา 20 ปี  7300 กว่าวัน  เราเองยังจำมือเราไม่ได้  ฉะนั้นการบันทึกพฤติกรรมเด็ก ครูอย่าฉะล่าใจว่าจำได้ ครูควรมีสมุดบันทึกติดตัวไว้เสมอ  เพราะเด็กพิเศษมีอะไรที่น่าสนใจ แปลกใหม่   เมือเด็กเกิดพฤติกรรมควรบันทึกไว้ทันที
**ครูส่วนใหญ่ถ้าหากไม่บันทึกพฤติกรรมเด็กตลอดเวลา จะเกิดพฤติกรรมดังนี้**
1.มโมไปเอง
2.ใส่ความรู้สึกส่วนตัวเข้าไป
3.ปรึกษาคนรอบข้าง
กิจกรรมที่ 2 การเรียนการสอนในเนื้อหาเรื่อง..การสอนเด็กพิเศษและเด็กปกติ
ทักษะของครูและทัศนะคติ
  • อบรมระยะสั้น
  • สัมมนา
  • สื่อต่างๆ
การเข้าใจภาวะปกติ
  • รู้จักเด็กแต่ละคน
  • มองเด็กให้เป็นเด็ก
  • เด็กเหมือนกันมากกว่าที่จะแตกต่างกัน  
 * จำชื่อเด็กทุกคน  ชื่อจริง  นามสกุล ชื่อเล่น เด็กพิเศษจะรู้สึกว่าเหมือนกับเพื่อน ไม่รู้สึกต่างจากเพื่อน*
การคัดแยกเด็กที่มีพัฒนาการช้า
  • การเข้าใจพัฒนาการของเด็ก จะช่วยให้ครูสามารถมองเห็นความแตกต่างของเด็กแต่ละคนได้ง่าย (มองเด็กให้ออก  แล้วดูว่าใช่หรือไม่ใช่ มองแล้วอย่าโฆษณาบอกใคร  มองเด้กทุกคน  มองในภาพรวม อย่าไปชะงักเด็กเกินไป  มองเด็กพิเศษแล้วมองเด็กปกติด้วย)
  • ความพร้อมของเด็ก
  • วุฒิภาวะ : ของเด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน
  • แรงจูงใจ : ของเด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน
  • โอกาส  :  ในห้องเรียนมีโอกาศเท่ากัน  ห้องเรียนรวมที่ดี ควรมีขีดจำกัดน้อยที่สุด เด็กมีโอกาสเยอะ    เด็กพิเศษ  มีโอกาศรับรู็น้อยกว่าเด็กปกติ  แต่ครูสามารถมีขีดจำกัดให้เด็กได้รับรู้ได้อย่างเท่าเทียมกัน
การสอนโดยบังเอิญ
  • ให้เด็กเป็นฝ่ายเริ่ม
  • เด็กเข้าหาครูมากเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาศในการสอนมากขึ้นเท่านั้น
  • ครูจะต้องมีความสนใจเด็ก
  • ครูจะต้องมีความรู้สึกที่ดีต่อเด็ก
  • ถ้าเด็กมาปรึกษาครู  อย่าใช้เวลานานเกินไป  จะต้องแบ่งเวลาให้ดี แล้วรีบไดูเด็กคนอื่น
อุปกรณ์
  • มีลักษณะง่าย
  • ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง
  • สื่อที่ดีไม่แบ่งแยกเพศเด็ก
  • สื่อที่มีการเล่นไม่ตายตัว เล่นได้หลากหลาย
ตารางประจำวัน
  • กิจกรรมต้องเรียงลำดับเป็นขั้นตอนและทำนายได้
  • เด็กจะรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจ
  • คำนึงถึงความเหมาะสมของเวลา
ทัศนคติของครู

ความยืดหยุ่น
  • การแก้แผนการสอนให้เหมาะสมกับสถานการณ์
  • ครูต้องตอบสนองต่อเป้าหมายที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กแต่ละคน
การเปลี่ยนพฤติกรรมและการเรียนรู้

เด็กทุกคนสอนได้
  • เด็กเรียนไม่ได้เพราะไร้ความสามารถ
  • เด็กเรียนไม่ได้เพราะขาดโอกาส
  • เด็กทุกคนมีศักยภาพอยู่ในตัว
เทคนิคการให้แรงเสริม
แรงเสริมทางสังคมจากผู้ใหญ่
  • โน้มน้าวจะเพิ่มพฤติกรรมที่ดีของเด็ก และมักเป็นผลทันที
  • ส่งเสริมให้เด็กเกิดพฤติกรรมนั้นบ่อยๆ
วิธีการแสดงออกถึงแรงเสริมจากผู้ใหญ่
  • ตอบสนองด้วยวา จา เช่น ชม  น่ารัก
  • การยืนหรือนั่งใกล้เด็ก 
  • พยักหน้ารับ  ยิ้ม  ฟัง
  • สัมผัสทางกาย  เช่น การกอด  ลูบ จับ  การสัมผัสอย่างเต็มใจเด็กพิเศษชอบมาก
  • ให้ความช่วยเหลือ ร่วมกิจกรรมกับเด็ก
หลักการให้แรงเสริมในเด็กปฐมวัย
  • ไม่ชมเลยเถิด
การแนะนำหรือบอกบท (prompting)
  • การย่อยงาน อย่างละเอียด  เป็นขั้นตอนฃ
  • ลำดับความยากง่ายของงาน
ขั้นตอนการให้แรงเสริม
  • การกำหนกเวลา  ให้พอดี  ไม่นานจนเกินไป
  • ความต่อเนื่อง  การสอนแบบก้าวหน้า หรือ ย้อนมาจากข้างหลัง
 การลดหรือหยุดแรงเสริม
  • ทำอย่างอื่นไม่สนใจเด็ก
  • เอาอุปกรณ์ของของเล่นออกไปจากตัวเด็ก
  • เอาเด็กออกจากของเล่น
กิจกรรมท้ายชั่วโมง
  • การตอบคำถาม P0st Test   ช่วยกันตอบคำถามรต่วมกันทุกคนมีส่วนร่วม เพื่อเป็นการทบทวนจากเนื้อหาที่เรียน
  • การฝึกร้องเพลง  5 เพลง ดังนี้
1.เพลง..ฝึกกายบริหาร
2.เพลง..ผลไม้
3.เพลง..กินผักกัน
4.เพลง..ดอกไม้
5.เพลง..จ้ำจี้ดอกไม้




 การนำไปประยุกต์ใช้
  • การบันทึกพฤติกรรมของเด็กพิเศษควรบันทึกในทันทีทันใด เมื่อเด็กเดิกพฤติกรรมที่น่าสนใจ แปลกใหม่  บันทึกทุกขั้นตอน  จดบันทึกอย่างละเอียด อะไรคือ จุดด้อย จุดเด่น อะไรที่ควรส่งเสริม และควรแก้ไข  เพื่อจะเป็นแนวทางในการเขียนแผน IEP
  • ห้องเรียนรวมที่ดี ควรมีขีดจำกัดน้อยที่สุด เด็กมีโอกาสเยอะ เด็กพิเศษ มีโอกาศรับรู็น้อยกว่าเด็กปกติ แต่ครูสามารถมีขีดจำกัดให้เด็กได้รับรู้ได้อย่างเท่าเทียมกัน
  • ครูจะต้องมีความคงเส้นคงวา ต้นเทอมแบบไหน ปลายเทอมสอนอย่างนั้น


การประเมินผล

การประเมินตนเอง

                   มาเรียนตรงเวลา  ตั้งใจเรียน  ตั้งใจ จดบันทึก  การทำกิจกรรมอย่างเต็มที่   มีความพร้อมในการเรียนการสอน

การประเมินเพื่อน
     
                    วันนี้เพื่อนบางส่วนๆ  ส่งเสียงดัง เนื่องจากเรียนร่วมกับเพื่อนอีกหนึ่งกลุ่มเรียน เพราะเนื่องจากอาจารย์ ติดประชุมช่วงบ่าย  แต่ส่วนรวมแล้วตั้งใจเรียนดี ช่วยกันตอบคำถาม แสดงความคิดเห็นภายในห้อง ตั้งใจทำกิจกรรมจากที่อาจารย์มอบมาย

การประเมินอาจารย์

                    อาจารย์มีเทคนิกการนำเข้าสู่บทเรียนได้ดี สามารถเชื่อมโยงจากกิจกรรมเข้าสู่เนื้อหาที่เรียน  สอนได้เข้าใจ  มีความสนุกสนานในชั้นเรียน  การเรียนการสอนไม่น่าเบื่อ ไม่ง่วงนอน  ชอบอาจารย์ร้องเพลง อาจารย์ร้องเพลงเพราะมีลูกเอื้อนเก่ง

วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ครั้งที่ 4

บันทึกอนุทิน
วิชาการจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อ.ตฤณ แจ่มถิน
วันพุธที่  กุมภาพันธ์  2558
ครั้งที่ 11 เวลาเรียน 08.30-12.20 น.

ไม่มีการเรียนการสอนเนื่องจากอาจารย์จะต้องไปนิเทศน์พี่ปี 5 

งานที่ได้รับมอบหมาย คือ ให้นักศึกษาเคลียงานทำบล็อกให้เรียบร้อย

 

วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ครั้งที่ 3

บันทึกอนุทิน
วิชาการจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อ.ตฤณ แจ่มถิน
วันพุธที่ 28 มกราคม 2558
ครั้งที่ 3 เวลาเรียน 08.30-12.20 น.


ความรู้ที่ได้รับ

กิจกรรมในวันนี้
          อาจารย์ให้นักศึกษาวาดภาพและระบายสี"ดอกกุหลาบ"  ซึ่งเป็นภาพที่ยากมาก อาจารย์ถ่ายมาจากที่บ้านของอาจารย์เองไม่มีในอินเตอร์เน็ต  โดยแต่ละห้องอาจารย์ให้วาดภาพดอกไม้ที่ไม่ซ้ำกัน เช่น ดอกทานตะวัน  ดอกชะบา  ดอกบัว  เป็นต้น  เมื่อวาดเสร็จแล้วให้แสดงความคิดเห็นว่า นักศึกษาเห็นอะไรจากภาพนี้

ภาพที่อาจารย์ให้วาดตามแบบ
  
ผลงานของหนู
สรุปจากการทำกิจกรรมนี้    
           การวาดภาพดอกกุหลาบในวันนี้เป็นการวาดภาพที่วาดให้เหมือนภาพจริง การเก็บรายละเอียดของดอกกุหลาบ  เช่น ดอกกุหลาบมีสีชมพูขาว  ซ้อนกลีบหลายกลีบ กลีบใหญ่กำลังบาน บางกลีบกำลังเหี่ยว  เปรียบเสมือนการบันทึกพฤติกรรมเด็กที่จะต้องบันทึกตามความเป็นจริง   จะต้องบันทึกทุกรายละเอียด  บันทึกเป็นช่วงๆ
การเรียนในเนื้อหาเรื่อง    เรื่อง  บทบาทของครูปฐมวัยในห้องเรียนรวม
1.สิ่งที่ครูไม่ควรทำ
  • การตั้งฉายาให้เด็ก  เปรียบเสมือนตราประทับตัวเด็กไปตลอดไป
  • ครูไม่ควรย้ำในส่วนที่พ่อแม่รู้อยู่แล้ว
  • ครูไม่ควรพูดให้พ่อแม่เกิดความหวังผิดๆ
2.สิ่งที่ครูควรทำ
  • สังเกตอย่างเป็นระบบ
  • จดบันทึกพฤติกรรมเด็กเป็นช่วงๆ 
**เขียนตามความเป็นจริง  ไม่เขียนตามอารมณ์ของครู **


กิจกรรมการร้องเพลง 
รอบแรกอาจารย์จะร้องให้ฟัง  รอบที่สองให้นักศึกษาร้องตามทีละวรรค  รอบที่สามให้ร้องพร้อมกัน  เป็นการฝึกร้องเพลงให้รู้จังหวะทำนอง เนื้อร้องให้ถูกต้องแม่นยำ  เพราะเพลงสามารถบูรณาการได้หลากหลายกิจกรรมในการเรียนการสอน
เพลง..ฝึกกายบริหาร
ฝึกกายบริหารทุกวันร่างกายแข็งแรง
ฝึกกายบริหารทุกวันร่างกายแข็งแรง
รูปทรงสมส่วนแคล่วคล่องว่องไว
รูปทรงสมส่วนแคล่วคล่องว่องไว


ผู้แต่ง อ.ศรีนวล รัตนสุวรรณ
เรียบเรียง อ.ตฤณ  แจ่มถิน


การนำความรู้ไปใช้
 
การจดบันทึกพฤติกรรมของเด็กภาพรวม ครูสามารถสังเกตมองด้วยตาเปล่าได้  แต่การบันทึกเป็นรายบุคคลควรจะจดบันทึกมากกว่ามองด้วยตาเปล่า
 
การประเมินผล
 
ประเมินตนเอง

            มาเรียนตรงเวลา  ตั้งใจเรียน   ตั้งใจวาดภาพดอกกุหลาบถึงแม้ว่าภาพอาจจะไม่เหมือนจริงแต่ดิฉันก็ตั้งใจวาด    กิจกรรมนี้ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการจดบันทึกพฤติกรรมของเด็กได้มากยิ่งขึ้น
             
ประเมินเพื่อน

            เพื่อนตั้งใจเรียน  ตั้งใจทำกิจกรรมวาดภาพดอกกุหลาบ  เพื่อนๆหลายคนที่มีความสามารถวาดดอกกุหลาบได้เหมือนจริงมากที่สุด
 
ประเมินอาจารย์
  •  อาจารย์ให้ดาวเด็กดีสำหรับคนที่ย้อมผมสีดำ  แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ดาวก็ควรทำความดีนี้ต่อไป
  • อาจารย์ได้ชี้แจงถึงวัสดุฝึกในการเรียนการสอนในรายวิชานี้  ว่าจะมีการปรับเปลี่ยน คือจะให้สีใช้เป็นรายบุคคล เพราะว่าจะให้นักศึกษาช่วยกันรับผิดชอบ   
  • การเรียนการสอน อาจารย์ยกตัวอย่างพฤติกรรมของเด็กพิเศษอย่างต่อเนื่องทำให้เข้าใจในเนื้อหารายละเอียดมากยิ่งขึ้น   


 

วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ครั้งที่ 2

บันทึกอนุทิน
วิชาการจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อ.ตฤณ แจ่มถิน
วันพุธที่ 21 มกราคม 2558
ครั้งที่ 2 เวลาเรียน 08.30-12.20 น.
 
 
ความรู้ที่ได้รับ
 
EAED3214 การจักประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
  •    เด็กพิเศษในสมัยโบราณ ใช้คำว่าซุกซ่อน พ่อแม่อับอาย ให้เด็กอยู่ที่บ้านไม่ให้ออกไปไหน     ไม่ปรากฎในสังสมเด็กถูกละเลย   การศึกษาพิเศษ จึงนำแนวคิดของต่างประเทศมาใช้มีมาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว
 
การศึกษาแบบเรียนร่วม
  •  การจัดให้เด็กพิเศษเข้าไปในระบบการศึกษาทั่วไปนั้น หลักสูตรจะไม่เปลี่ยน แต่มีการเขียนแผน IEP แผนการศึกษาส่วนบุคคล
  • เด็กจะอยู่ในความดูแลของศูนย์การศึกษาพิเศษเช่น โรงเรียนตาบอด  หูหนวก จะประสานกับทางโรงเรียนที่จะส่งเด็กมาเรียนร่วมกับเพื่อนในห้อง
  •  กิจกรรมยอดฮิตที่ส่วนใหญ่จะใช้กับเด็กพิเศษ คือ ดนตรี ศิลปะ  เคลื่อนไหว
 
การศึกษาแบบเรียนรวม
  • เด็กทุกคนเท่าเทียมกัน   เด็กมีสถานะเหมือนเด็กทุกคนในห้องเรียน  หน้าที่รับผิดชอบหลักอยู่ที่โรงเรียน
  •  
  • ความหมายของการศึกษาแบบเรียนรวมที่ใช้กันทั่วโลก  คือ  การศึกษาแบบเรียนรวมเป็นการศึกษาของเด็กทุกคนเริ่มต้นจากขั้นต้นของการศึกษาในวัยอนุบาล  และเด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน  ครูจำเป็นจะต้องจัดการศึกษาให้แต่ละบุคคล
  •  อย่าไปดูถูกเด็กว่า  เด็กทำไม่ได้    อย่าไปคาดหวังว่าจะทำได้ในระดับใด  ขึ้นอยู่กับครูผู้สอนว่าจะสอนอย่างไร
กิจกรรม
  •  วันนี้อาจารย์ให้ทำ     เพื่อเป็นการทดสอบว่านักศึกษามีความรู้ความข้าใจจากที่อาจารย์สอนไปในวันนี้มากน้อยเพียงใด โดยที่ห้ามดูชีส  แต่ให้ปรึกษาเพื่อนข้างซ้ายและขวาได้
  • ทบทวบ  ร้องเพลงสำหรับเด็กปฐมวัยทั้ง 5 เพลง จากสัปดาห์ที่แล้ว
เพลง..นม
นมเป็นอาหารดี มีคุณค่าต่อร่างกาย
ดื่มแล้วชื่นใจ ร่างกายแข็งแรง
ยังมีนมถั่วเหลือง ดื่มได้ดีและไม่แพง
ดื่มแล้วชื่นใจ ร่างกายแข็งแรง
 
เพลง..อาบน้ำ
อาบน้ำซู่ซ่า  ล้างหน้าล้างตา
ฟอกสบู่ถูตัว  ชำระเหงือไคล
ราดน้ำให้ทั่ว  เสร็จแล้วเช็ดตัว
อย่าให้ขุ่นมัว  สุขกายสบายใจ

เพลง..แปรงฟัน
ตื่นเช้าเราแปรงฟัน
กินอาหารแล้วเราแปรงฟัน
ก่อนนอนเราแปรงฟัน
ฟันสะอาดขาวเป็นเงางาม
แปรงฟันที่ถูกวิธี  ดูซิต้องแปรงขึ้นลง
แปรงฟันที่ถูกวิธี ดูซิต้องแปรงขึ้นลง

เพลง..พี่น้อง
บ้านของฉันอยู่ด้วยกันมากหลาย
พ่อ แม่ ปู่ ย่า ลุง ป้า ตา ยาย
มีทั้งน้า อา พี่และน้องมากมาย
ทุกคนสุขสบาย  เราเป็นพี่น้องกัน

เพลง..มาโรงเรียน
เรามาโรงเรียน  เราเขียนเราอ่าน
ครูเล่านิทานสนุกถูกใจ
เราเรียนเราเล่น  เราเป็นสุขใจ
ร่าเริงแจ่มใสเมื่อมาโรงเรียน
 
ผู้แต่ง อ.ศรีนวล รัตนสุวรรณ
เรียบเรียง อ.ตฤณ แจ่มถิน

การนำความรู้ไปใช้
 
              -  การเปิดใจยอมรับเป็นสิ่งที่สำคัญ  ครูผู้สอนจะต้องใจเย็น ไม่ควรไปคาดหวังอะไรกับเด็ก

              -  การที่นำเด็กพิเศษมาเรียนรวมกับเด็กปกติแล้ว  ครูผู้สอนจะต้องแจ้งให้เด็กในห้องทราบว่าเด็กเป็นอะไร  จะต้องทำอย่างไร  และวิธีบอกควรใช้คำพูดที่ดี(พูดอ้อม)  เช่น เพื่อนไม่สบายน่ะ   เพื่อนขี้อาย เพื่อนพูดไม่เก่ง  หนูต้องช่วยเพื่อนน่ะ  หนูรักเพื่อนไหม 
 
              -  จุดสำคัญในห้องเรียนที่เรียนรวม  ครูจะต้องดูแลอย่าให้เด็กในห้องนำจุดด้อยของเด็กพิเศษมาล้อ  อย่าตั้งฉายาให้เพื่อน

การประเมินผล

ประเมินตนเอง
 
              ช่วงต้นคาบอาจจะไม่ค่อยมีสมธิในการเรียนมากเท่าไหร่ เนื่องจากยังตกใจกับราคาค่ามะม่วงที่เพื่อนซื้อมาด้วยราคา 80 รู้สึกไม่มีความยุติธรรมของผู้ซื้อเลย   ต่อมาสมาธิก็เริ่มดีขึ้นตั้งใจเรียน  ตั้งใจจด  มีความสนุกสนานร่าเริง  ได้รู้ถึงวิธีหาความยุติธรรมให้นักศึกษา  จากที่เคยไม่รู้มาก่อน  

ประเมินเพื่อน
    
              การเรียนการสอนในวันนี้ได้เรียนรวมกับ เซตตอนบ่าย (ภาคค่ำย้ายมาภาคปกติ) เนื่องจากอาจารย์ติดประชุมตอนบ่าย   บรรยากาศในชั้นเรียนสนุกสนาน  ร่าเริ่ง  เพื่อนๆทุกคนตั้งใจเรียนตั้งใจทำกิจกรรม  เป็นโอกาศที่ดีที่ได้เรียนร่วมกัน บางคนอาจจะได้เคยเรียนด้วยกันมาแล้ว  แต่บางคนก็ไม่รู้จักเลย  เป็นความบังเอิญที่ดีที่ทำให้เกิดความผูกพันธ์และมิตรภาพที่ดีสำหรับเพื่อนร่วมชั้นเรียน
 
ประเมินอาจารย์

              อาจารย์แต่งกายเรียบร้อย  มีเทคนิกการสอนที่ดี  ชอบอาจารย์ร้องเพลง